LOGO-Main
หลักสูตรการบริหารจัดการด้านความมั่นคงขั้นสูง (มส.)

Advanced Security Mangement Program

มูลนิธิการจัดการเพื่อความมั่นคง

Security Management Foundation

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวบรรยายหัวข้อ ความร่วมมือภาครัฐและเอกชนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ

Share

ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ชี้ เศรษฐกิจของไทยขับเคลื่อนโดยเอกชน มั่นใจ ปี 2567 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย  35-38  ล้านคน หลังรัฐบาลใช้นโยบายฟรีวีซ่า

การอบรมหลักสูตรการบริหารจัดการด้านความมั่นคงขั้นสูง (มส.) รุ่นที่ 16 จัดโดยมูลนิธิจัดการเพื่อความมั่นคง 

โดยมี พลเอก จรัล กุลละวณิชย์ เป็นประธานมูลนิธิ  และ 

พลเอก ดร. มารุต ปัชโชตะสิงห์ ผู้อำนวยการหลักสูตร

การบริหารจัดการด้านความมั่นคงขั้นสูง 

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวบรรยายหัวข้อ 

“ความร่วมมือภาครัฐและเอกชนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ” ว่า  หอการค้าไทยที่มีอายุการก่อตั้งมากว่า 90 ปี มีสมาชิกทุกจังหวัดกว่า 140,000 บริษัท ทำงานร่วมกับทุกฝ่ายใช้เครือข่ายสร้างความเข้มแข็งด้านการค้าการลงทุน ตั้งเป้าในช่วงระยะเวลา 1 ปีครึ่งจะเพิ่มสมาชิกให้ได้ 2 แสนรายเพื่อเปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีเข้ามามีส่วนร่วม ในส่วนของสภาหอการค้าไทยทำงานเชื่อมโยงระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ให้ข้อมูลเผยแพร่ข้อมูลด้านเศรษฐกิจและการลงทุน การค้า การเกษตร และ ภาคบริการ มีการทำงานระหว่างเอกชนและเอกชน และ ทำงานร่วมกับรัฐบาล ทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ทำงานในแนวทางเดียวกัน เพิ่มขีดความสามารถช่วยเอสเอ็มอีให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน จะเห็นได้ว่า 

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเศรษฐกิจของประเทศไทยขับเคลื่อนโดยเอกชน ต้องทำให้ภาครัฐเข้าใจการทำงานของภาคเอกชน โดยหอการค้าไทย เป็นตัวกลางแสดงจุดยืนที่ชัดเจนให้รัฐบาลได้รับทราบถึงแผนการดำเนินงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เห็นได้จากในช่วงเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด19 ภาครัฐ และ เอกชนทำงานประสานร่วมกันเป็นทีมไทยแลนด์  ทำให้ไทยผานพ้นวิกฤตโควิด19 มาได้

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า ภาคเอกชนมีการทำงานร่วมกับรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยเร่งความเชื่อมั่นในสายตานักลงทุนต่างชาติ การปราบคอรัปชั่นอย่างจริงจัง แผนกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวโดยเร็ว เร่งส่งเสริมการท่องเที่ยว ด้วยการฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทย

เป็นการยกระดับการท่องเที่ยวไทยและสร้างความเชื่อมั่น  นโยบายการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทให้ประชาชน โดยภาคเอกชนได้มีการสะท้อนมุมมองและความเห็นไปยังรัฐบาล เป็นนโยบายหาเสียงที่อาจกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล  แต่หากจะกระตุ้นเศรษฐกิจ ควรเน้นช่วยเหลือที่กลุ่มเปราะบาง

ภาคเอกชนนำเสนอว่า ทำอย่างไรให้รัฐบาลกระตุ้นเยียวยาเศรษฐกิจ โดยใช้งบประมาณปี 2566 ที่ค้างท่อในส่วนของภูมิภาค รัฐวิสาหกิจ เช่น งบภัยแล้ง งบน้ำท่วม เอาเงินเหล่านั้นมาใช้ โดยขอให้ทุกหน่วยงานภาครัฐ เตรียมความพร้อมแผนการใช้งบประมาณ เชื่อว่า เศรษฐกิจของไทยมีเม็ดเงินอัดฉีดลงไปจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ นโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในเดือนมีนาคมจะมีการทบทวนอีกครั้งเพื่อความเหมาะสมของทุกฝ่ายทั้งนายจ้าง และ ลูกจ้าง ให้อยู่ได้

นายสนั่น กล่าวต่อว่า รัฐบาลได้มีการโรดโชว์ต่างประเทศ มุ่งเน้นการเจรจาเรื่องการค้าการลงทุนกับต่างประเทศเพื่อสร้างความเชื่อมั่น กระตุ้นให้เกิดการลงทุนในประเทศไทย แต่สิ่งที่ท้าทายคือ ต้องจับตาดูต่อไปจะมีการลงทุนจากต่างประเทศหรือไม่ เนื่องจาก ประเทศไทยยังมีจุดด้อยเรื่องความพร้อมด้านบุคลากร ปัญหาค่าไฟที่แพงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน นโยบายส่งเสริมรถ EV พลังงานสะอาด รัฐบาลให้ความสำคัญ​ ขณะนี้ประเทศไทยรุดหน้าไปมาก เห็นได้จาก ยอดขายรถ EV ในมอเตอร์โชว์ครั้งที่ผ่านมา มียอดจองกว่า 50%

ในภาคการท่องเที่ยวของไทย ในปี 2567 ฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ตั้งเป้าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 35-38  ล้านคน จากปี 2562 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 28 ล้านคน ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้น และ ภาคการส่งออก ทั้งปี 2566 ติดลบ 1% เชื่อว่า ปี 2567 จะกลับมาเป็นบวกเพิ่มขึ้น 1-2% มีต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย จะทำให้ไทยส่งออกสินค้าได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลและภาคเอกชน มี 4 ด้านที่เกิดความท้าทายที่ต้องทำงานร่วมกัน ประเด็นแรกใน ปีนี้จะมี 60 กว่าประเทศจะมีการเลือกตั้งใหม่  การเลือกตั้งในสหรัฐฯซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญต่อภาคการค้า การลงทุนของประเทศไทย ส่งผลกระทบเศรษฐกิจไทย ที่หลายฝ่ายจับตา หากโดนัลทัมป์ ชนะการเลือกตั้ง สิ่งที่จะเกิดขึ้น สงครามยูเครนรัสเซีย อาจจะมีการเจรจายุติสงคราม ความขัดแย้งอิสราเอลและฮามาส รวมถึง จีนจะมีการปรับแผนการลงทุน

ประเด็นที่ 2 ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี ที่ท้าทายความสามารถของประเทศไทยต้องมีการพัฒนารุดหน้าอย่างรวดเร็วให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก  เช่น ระบบราชการ ที่ต้องทำงานประสานกับภาคเอกชน ไทยเร่งพัฒนาศักยภาพทักษะบุคลากร ด้านภาษา ไอที

ประเด็นที่ 3 แก้กฎหมายกฎระเบียบสร้างแรงดึงดูดให้บุคลากรต่างชาติได้อยู่ในประเทศไทยอย่างถาวรและยั่งยืน เนื่องจาก ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งแนวนโยบายที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ และ ประเด็นสุดท้าย การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมฝุ่น PM 2.5 ที่เป็นอุปสรรคต่อเศรษฐกิจไทย ทั้งด้านท่องเที่ยว การเกษตร

นายสนั่น กล่าวด้วยว่า หอการค้ามีภารกิจสำคัญ 

เร่งลดความเหลื่อมล้ำและยกระดับขีดความสามารถของประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรมและเติบโตอย่างยั่งยืน โดยคัดเลือก 10 จังหวัด วางแผนพัฒนาให้เติบโตทุกด้าน 

มุ่งแก้ปัญหาความยากจนโดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุน