การบรรยาย หัวข้อ “การสร้างพลังปัญญา ในความแตกต่างและความหลากหลาย” จาก พระพรหมบัณฑิต(ประยูร ธมฺมจิตฺโต) กรรมการมหาเถรสมาคม ,เจ้าอาวาสวัดประยูรวงศาวาสวรวิหาร, อุปนายกสมาคมมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย กล่าวว่า การสร้างปัญญาจากความแตกต่างและความหลากหลายมีความเกี่ยวข้องกับพื้นฐานของสังคมไทย ที่เป็นคุณธรรมคุ้มครองไทยได้แก่ ความรักอิสรภาพ ไม่ยอมเป็นเมืองขึ้นของใคร ,ความปราศจากวิหิงสา และ ความฉลาดในการประสานประโยชน์ ซึ่งมาจากสติปัญญาของคนไทยในอดีต
ผู้ที่มีปัญญาจากความหลากหลายต้องแกล้งโง่ ไม่เป็นน้ำล้นแก้ว ยกตัวอย่าง โสคราติส ที่กล่าวไว้ว่า “หนึ่งเดียวที่ข้าพเจ้ารู้ คือรู้ว่า ข้าพเจ้าไม่รู้อะไร” เป็นการยอมรับในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ เพื่อจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
พระพุทธเจ้า ตรัสไว้ว่า “คนโง่ที่รู้ว่าตัวเองโง่ ยังเป็นคนฉลาดได้บ้าง ส่วนคนโง่ที่สำคัญตนว่าฉลาด นับว่าโง่แท้ๆ”
เส้นทางของการนำไปสู่ปัญญา ต้องผ่านขั้นตอน ที่เรียกว่า Data หรือ ผัสสะ ,Information หรือสัญญา,Knowledge หรือ สุตะ ความรู้จากแหล่งที่หลากหลาย และ Wisdom คือ ปัญญา ซึ่งปัญญาไม่ใช่เพียงความรู้ที่สั่งสมมาจากการเล่าเรียนหรือประสบการณ์เพียงอย่างเดียว แต่คือความรอบรู้ที่เกิดจากการเรียน คิด และวิเคราะห์ได้ถึงเบื้องหลังของปรากฏการณ์ที่เชื่อมโยงกัน โดยมีตัวรู้หรือ สติที่ต้องควบคู่กันไปด้วย เหมือน EQ ที่ต้องกำกับด้วย IQ
ผู้มีสติปัญญา ต้องมีความฉลาดในอารมณ์ รู้เท่าทันอารมณ์ตน แล้วควบคุมอารมณ์ได้ รู้เท่าทันอารมณ์คนอื่น และบริหารคนอื่นได้ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาตนและพัฒนาประเทศชาติได้ต่อไป
สำหรับหลักสูตรการบริหารจัดการด้านความมั่นคงขั้นสูง หรือ มส. จัดโดย มูลนิธิการจัดการเพื่อความมั่นคง มี พล.อ.จรัล กุลละวณิชย์ เป็นประธานมูลนิธิ เพื่อพัฒนาผู้บริหารระดับสูง ให้มีองค์ความรู้ที่ทันสมัย ในองค์ประกอบความมั่นคงแห่งชาติ โดยเฉพาะด้านความมั่นคงของมนุษย์